บทความสะท้อนความเชื่อ

เล่มที่ 3 ฉบับที่ 1 – พฤษภาคม 2025

พระวิญญาณยังทรงเคลื่อนไหว: ศาสนศาสตร์โปรเตสแตนต์อีแวนเจลิคอลกับเรื่องเหนือธรรมชาติในบริบทไทย

วันที่: 9 พฤษภาคม 2025

โดย: ศจ.ดร. จันทร์สมร ชัยศักดิ์ กรรมาธิการศาสนศาสตร์และคำสอน ของสหกิจคริสเตียนแห่งประเทศไทย และ ของสหกิจฯ เอเชีย Asia Evangelical Alliance | เกี่ยวกับผู้เขียนบทความ

บทนำ

ภูมิทัศน์ทางศาสนาในประเทศไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการผสมผสานของศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ความเชื่อพื้นบ้านแบบผี และอิทธิพลจากศาสนาฮินดู ในบริบทเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้แสวงหาความจริงในประเทศไทยจะได้พบกับพระเจ้าเป็นครั้งแรกผ่านประสบการณ์เหนือธรรมชาติ เช่น การหายจากโรค การปลดปล่อยจากวิญญาณร้าย ความฝัน หรือการอธิษฐานที่ได้รับคำตอบ สำหรับหลายคน ความเชื่อในพระคริสต์ไม่ได้เริ่มต้นจากเหตุผลเชิงหลักคำสอน แต่เกิดจากการเผชิญหน้ากับพระเจ้าที่เป็นจริง อย่างไรก็ตาม ในบางกลุ่มของศาสนาคริสต์โปรเตสแตนต์แบบอีแวนเจลิคอล—โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตก—กลับมีความลังเลที่จะเปิดรับเรื่องเหนือธรรมชาติ เนื่องจากกังวลเรื่องความถูกต้องของหลักคำสอนหรือความสุดโต่งเกินควร การใคร่ครวญนี้จึงเรียกร้องให้ฟื้นฟูการประกาศข่าวประเสริฐและพันธกิจที่ได้รับพลังจากพระวิญญาณ—ที่ยืนยันฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าที่ยังทรงสำแดงอยู่ในปัจจุบัน ภายใต้การควบคุมของพระคัมภีร์อย่างหนักแน่น

บริบทของการเปลี่ยนความเชื่อ (conversion) ในประเทศไทย: บทบาทของประสบการณ์เหนือธรรมชาติ

จากคำพยานของผู้เชื่อชาวไทยจำนวนมาก พวกเขาได้ประสบกับพระเจ้าครั้งแรกผ่านการแทรกแซงของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นการหายจากโรค การรอดพ้นจากอำนาจวิญญาณ หรือแม้แต่ความฝัน ในกรณีเหล่านี้ การกลับใจมักเริ่มต้นจากการเผชิญหน้าทางจิตวิญญาณมากกว่าการหลักคำสอนเชิงเหตุผล คนไทยมักตอบสนองด้วยอารมณ์และผ่านทางความสัมพันธ์ ก่อนที่จะตอบสนองด้วยเหตุผล การเปิดใจฝ่ายวิญญาณมักเกิดขึ้นหลังจากประสบการณ์เหล่านี้ ซึ่งต่อมานำไปสู่การเป็นสาวกอย่างลึกซึ้งและการเรียนรู้ที่หยั่งรากในพระคัมภีร์

ในกระบวนการนี้ ความสัมพันธ์มีความสำคัญอย่างยิ่ง มิตรภาพกับคริสเตียนที่น่าเชื่อถือ การต้อนรับอย่างอบอุ่น หรือประสบการณ์ร่วมในฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า มักมีบทบาทสำคัญ วิธีการประกาศที่อิงแต่เหตุผลและหลักคำสอนอาจไม่สามารถเข้าถึงจิตใจของผู้แสวงหาชาวไทยได้อย่างแท้จริง ผู้เชื่ออีแวนเจลิคอลจึงจำเป็นต้องเข้าถึงหัวใจและจิตวิญญาณก่อน—โดยไม่ละทิ้งความจริง ซึ่งหมายความว่าควรเคารพประสบการณ์เหนือธรรมชาติ พร้อมกับนำผู้คนเข้าสู่ความเติบโตฝ่ายจิตวิญญาณตามพระคัมภีร์อย่างรอบคอบ

ความตึงเครียดในศาสนศาสตร์อีแวนเจลิคอล

กลุ่มอีแวนเจลิคอลมักเผชิญความตึงเครียดระหว่างการยึดมั่นในสิทธิอำนาจของพระคัมภีร์ กับความปรารถนาที่จะสัมผัสฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า บทความนี้แม้จะยืนยันว่าของประทานเผยพระวจนะและการสำแดงเชิงวิวรณ์อื่น ๆ ได้ยุติลงหลังยุคอัครทูตแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าพระเจ้าไม่ทรงกระทำการอัศจรรย์อีกต่อไป พระเจ้าทรงยังคงรักษา ปลดปล่อย ชี้นำ และปลุกจิตวิญญาณของผู้คน—แต่ทั้งหมดนี้ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตของพระคัมภีร์ การสำแดงเหล่านี้ไม่ใช่การวิวรณ์ (คำเผย) ใหม่ แต่เป็นการกระทำแห่งพระเมตตาตามพระคัมภีร์

รากฐานพระคัมภีร์สำหรับการเปิดรับสิ่งเหนือธรรมชาติ

พระคัมภีร์ใหม่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการอัศจรรย์—ไม่ว่าจะเป็นการรักษา การขับผี หรือหมายสำคัญต่างๆ—ที่เป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจของพระเยซูและคริสตจักรยุคแรก เหตุการณ์เหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่การแสดงฤทธิ์เดช แต่คือหมายสำคัญของความรักและแผ่นดินของพระเจ้า แม้ในปัจจุบัน พระคัมภีร์ก็ยังหนุนใจให้ผู้เชื่ออธิษฐานเผื่อผู้เจ็บป่วย เชื่อในฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า แต่การอัศจรรย์เหล่านี้ไม่ใช่สูตรรับประกัน และไม่ใช่ตำแหน่ง (offices) ที่มอบให้กับทุกคน แต่เป็นการสำแดงตามพระประสงค์ของพระเจ้า ไม่ใช่แหล่งข้อมูลคำสอนใหม่ หรือคำเผยใหม่

หลักการพิจารณาและกรอบศาสนศาสตร์

พันธกิจใดที่ได้รับการนำโดยพระวิญญาณ ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของพระคัมภีร์อย่างชัดเจน การกล่าวอ้างเรื่องเหนือธรรมชาติใด ๆ ต้องถูกตรวจสอบด้วยพระคัมภีร์ ประสบการณ์ ความรู้สึก หรือความฝัน ต้องไม่มาแทนที่หรือเทียบเท่ากับสิทธิอำนาจของพระวจนะ การรักษาและการปลดปล่อยควรนำผู้คนไปสู่พระเยซู ไม่ใช่กลายเป็นจุดศูนย์กลางของพันธกิจ ข่าวประเสริฐต้องเป็นศูนย์กลางเสมอ พระคริสต์ผู้ถูกตรึงและฟื้นคืนพระชนม์ต้องเป็นถ้อยคำและเนื้อหาหลักความเชื่อ—ส่วนอื่น ๆ ต้องสนับสนุนและเสริมถ้อยคำและเนื้อหานี้

บทสรุป: มุ่งสู่พันธกิจศาสนศาสตร์แนวอีแวนเจลิคอล (Evangelical missiology) ที่เปี่ยมด้วยฤทธิ์พระวิญญาณ

คริสตจักรไทยสามารถมีทั้งรากฐานพระคัมภีร์ที่มั่นคง และประสบการณ์ที่เปี่ยมด้วยพระวิญญาณได้พร้อมกัน ผู้เชื่ออีแวนเจลิคอลไม่จำเป็นต้องปฏิเสธเรื่องเหนือธรรมชาติ หรือปล่อยให้สิ่งนี้ตกอยู่ในมือของกลุ่มเคลื่อนไหวที่ไม่อิงพระคัมภีร์ แต่เราสามารถฟื้นคืนพื้นที่นี้ภายใต้การปกครองของพระเจ้าและพระวจนะของพระคริสต์ เมื่อฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าสัมพันธ์กับความจริงในพระคัมภีร์ คนไทยจะพบกับพระเจ้า จิตใจจะถูกแตะต้อง ความคิดจะถูกเปลี่ยนแปลง และชีวิตจะได้รบการสร้างขึ้นใหม่ พระวิญญาณยังทรงเคลื่อนไหวอยู่—ไม่ใช่ผ่านการเปิดเผยใหม่ (นอกพระคัมภีร์) แต่ผ่านการนำพระวจนะมาปฏิบัติอย่างสัตย์ซื่อ การประกาศข่าวประเสริฐ และการประทับอยู่ของพระวิญญาณในชีวิตของผู้เชื่อทุกคน

สามารถดูการสนับสนุนเพิ่มเติมได้ในเอกสารอ้างอิงต่อไปนี้: